วันเสาร์ที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2550

ชีวิตม.ปลายเพื่อการแข่งขัน (โดยเฉพาะ)

ตอนเรียนม.ปลาย ผมมีเป้าหมาย 2 อย่าง
  1. ค้นหาตัวเองให้เจอว่าต้องการเรียนอะไรในมหาวิทยาลัย
  2. แสวงหาโอกาสที่ดีที่สุด ที่ทำให้ตัวเอง สอบเข้ามหาวิทยาลัยให้ได้
ผมโชคดี (ไม่รู้่ว่าโชคดีหรือเปล่า) เป้าหมายแรกดูจะได้ข้อสรุปเร็วกว่าที่คิด ผมไปสะดุดที่วิชา ชีววิทยา ที่ต้องท่องจำ และมีข้อยกเว้น เยอะมาก ๆ (สำหรับผม) เอาเป็นว่าไม่ถูกกับผมก็แล้วกัน แล้วคุณลองคิดดู ถ้าคุณสอบเข้ามหาวิทยาลัยโดยไม่ใช้วิชาชีวะวิทยา คุณจะเหลือคณะอะไรบ้าง หมอตัดไปได้เลย คณะวิทยาศาสตร์ ก็ได้แค่บางคณะ ในบางมหาวิทยาลัยเท่านั้น ก็เหลือแค่ สถาปัตย์, วิศวกรรม, เศรษฐศาสตร์, บริหาร สำหรับผมมีแค่เป้าหมายเดียวเท่านั้น "วิศวกรรม" เมื่อได้เป้าหมายแล้ว คุณเชื่อไหมว่า อะไรที่ไม่ใช่เป้าหมาย ผมแทบไม่สนใจเลย เช่น พละศึกษา, การอาชีพ,ศาสนา โดยเฉพาะชีววิทยา เอาแค่พอผ่านไปได้เท่านั้น ในขณะที่วิชาอื่น เช่น คณิต,ฟิสิกส์,เคมี,อังกฤษ ไม่เป็นรองใครเลยหละ จนอาจารย์วิชาชีววิทยาต้องเรียกพบ แล้วถามว่าผมมีปัญหากับอาจารย์หรือเปล่า เล่นเอาดังไปเลย

ผมอยากมีโอกาสในการลองสอบเอ็นทรานส์ก่อนคนอื่น จึงพยายามสอบเทียบ (กศน.) ให้ได้ตั้งแต่ ม.4 เพื่อให้ทันกับการสอบเอ็นท์ และผมก็ได้สอบเอ็นท์ ครั้งแรกตอนจบ ม.4 สมใจ ผมเลือกวิศวกรรม 5 อันดับเลยครับ (เท่มากๆ) และก็สมน้ำหน้าตัวเองด้วยที่สอบไม่ติด

เอาล่ะสิทีนี้ เร่ิมใจเสียอีกครั้ง ถ้าเปลี่ยนแผนตอนนี้คงเสียเวลาแน่ ผมเร่ิมทบทวนว่าผมผิดพลาดตรงไหน และก็ได้คำตอบว่า ผมมีพื้นฐานความรู้น้อยเกินไป ซึ่งผมต้องแก้ไข ผมจำไม่ได้้ว่าตอน ม.5 ผมคิดอะไรอยู่ จำได้แค่ว่า ผมเรียนพิเศษเยอะมาก ทั้งเรียนคอสสั้นเพื่อปูพื้นฐาน ม.4,5,6 คอสความรู้ประยุกต์ตะลุยโจทย์ ม.4,5,6 คอสเตรียมเอ็นท์, คอสความถนัดทางวิศวะ ทำให้ผมต้องเรียนตลอด หลังเลิกเรียนปกติ ผมไปเรียนพิเศษที่ ม.ศิลปากร (เป็นโครงการเตรียมเอ็นท์ ของม.ศิลปากร) ก็เลือกเฉพาะบางวิชาเช่น เคมี อ.สุธน ฟิสิกส์ อ.พูนศักดิ์ อังกฤษ ทำให้มีเวลาว่างตอนเย็นเป็นบางวัน สำหรับการบ้านประจำ ส่วนเสาร์อาทิตย์ ผมเข้ากรุงเทพ ไปเรียนพิเศษ ผมเรียนที่ PEP กับ Chemistry Center เอาเป็นว่าวิชาอังกฤษ ฟิสิกส์ คณิตศาสตร์ และพื้นฐานวิศวกรรม ผมไม่กลัวใครเลย แต่ผมลืมไปว่าผมต้องสอบภาษาไทยกับสังคมด้วยนี่สิ (ไม่เคยสนใจมันเลย) แต่โชคดีที่มีโอากสได้เรียนพิเศษบ้าง แม้ไม่มาก และก็ได้ เพื่อนคุณแม่ ช่วยสรุปให้ทางโทรศัพท์ในคืนเดียวก่อนสอบ (หลับตาฟังเอาเลยหละ)

ตอนนั้นผมเชื่อมั่นและคิดว่าตัวเองพร้อมที่สุด
ผมลองสอบ (ใช้สิทธิโควต้า) คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม ม.ศิลปากร ก็ติด
ผมลองสอบเข้า คณะวิศวกรรม ม.ธรรมศาสตร์ ภาคภาษาอังกฤษ ได้คะแนน ฟิสิกส์ 85/100 จนอาจารย์ที่สัมภาษณ์ชม แต่ภาษาอังกฤษ แค่ 65 (อ้อ ผมสอบผ่านข้อเขียนและผ่านสัมภาษณ์นะครับ) ก็มั่นใจได้ระดับหนึ่งหละ เข้ามหาวิทยาลัยได้แล้ว ความเครียดลดลงมากเลย

ตอนสอบเอ็นท์ ก็ไม่เครียดเหมือน ตอน ม.4 สอบไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ยังเลือกเรียน ม.6 ก็ได้ หรือ เรียนม.ธรรมศาสตร์ หรือ ม.ศิสปากรก็ได้
ผมเลือก วิศวกรรม ม.เกษตร (บางเขน) เป็นอันดับ 1 วิศวกรรม ม.มหิดล เป็นอันดับ 2

ผมสอบติดอันดับ 1 วิศวกรรม ม.เกษตร (บางเขน)

ตอนนั้นสับสนเหมือนกัน ตัวเลือกเยอะไปหมด แต่ต้องตัดไปบ้าง เรียนต่อ ม.6 คงลืมไปได้เลย อุตส่าเรียนพิเศษ ทั้งพื้นฐาน และ ประยุกต์มา ต้องไปเรียนใหม่อีกปี ไม่เอาด้วยหรอก และก็เชื่อมั่นว่าตัวเองพร้อมมาก ๆ (ดูจากผลสอบแต่ละที่) คณะเทคโนโลยี ก็น่าจะตัดทิ้งอีก เพราะไม่ใช่คณะวิศวที่อยากเรียน และตอนเรียนยังต้องมีชีววิทยาอีก (ไม่ชอบเอามาก ๆ) ก็เเหลือแค่ ม.เกษตร กับ ม.ธรรมศาสตร์ (ภาคอินเตอร์)

ผมอยากเรียนอินเตอร์นะ เพราะท้าทายดี กับทะนงที่คะแนนฟิสิกส์สูงด้วย แต่พอดูค่าเรียนต่อเทอมแล้ว สงสารพ่อกับแม่ ไหนละต้องส่งน้องเรียนด้วย ก็เลยเลือกเรียน วิศวกรรม ม.เกษตร เรียนอยู่อีก 4 ปี...... มีเรื่องอีกเยอะจะเล่าให้ฟัง