เข้าเรียนเป็นนิสิตเกษตร ตั้งแต่ปี 2536 ด้วยความตั้งใจแน่วแน่ในการเรียนวิศวกรรมด้านไฟฟ้า
ทั่งๆทั่ตัวเองก็ชอบคอมพิวเตอร์ และ วิศวกรรมคอมพิวเตอร์ม.เกษตร ก็ไม่เป็นรองใครในยุคนั้น
ปี 1 เทอมแรก เรียนวิชาพื้นฐานทั่ว ๆ ไป ก็มีพวก คณิต ฟิสิกส์ เคมี ของคณะวิทยาศาสตร์ เรียนเศรษฐศาสตร์ ภาษาอังกฤษ ความยากอยู่ระดับ ม.ปลาย สำหรับผมถือเป็นการทบทวนของเก่านะ เพราะตอนกวดวิชาเตรียมเอ็นทรานซ์ หนักกว่านี้มาก เทอมแรกเกรดสูงมาก 3.42 (ลุ้นเกียรตินิยมเลยหล่ะ) พอเทอมสองเริ่มประมาท เพราะคิดว่าตัวเองแน่ ใช้ชีวิตอิสระมากไปหน่อย ได้เกรด(ต่อเทอม) 2.4 เล่นเอาเลิกลุ้นเกียรตินิยมไปเลย) แต่ยังคิดได้ ปี 2,3,4 ยิ่งเรียนยิ่งยาก ยิ่งรู้ว่าตัวเองโง่มาก ๆ ยังมีเรื่องที่ไม่รู้อีกเยอะ จบ 4 ปี ด้วยเกรดเฉลี่ย 2.66
ประสบการณ์ระหว่างเรียน ก็ไม่จัดว่าเป็นคนที่ตั้งใจเรียนชนิดขวาจัด แต่เน้นกิจกรรมด้วย(ทั้งมีสาระ และ ไร้สาระ)เนื่องจากในมหาวิทยาลัยมีกิจกรรมให้ทำมากมาย ในช่วงเวลานี้เราต้องค้นหาตัวเองให้เจอว่าชอบอะไรกันแน่ บางทีสิ่งที่เราชอบอาจไม่ใช่สิ่งที่เราเรียนรู้อยู่ก็ได้
กิจกรรมระหว่างที่เรียน 4 ปี ก็มีการรับดูแลคอมพิวเตอร์ของคณะอื่น (มหาวิทยาลัยมีนโยบายจ้างงานเป็นลูกจ้างชั่วคราว) ได้เงินเดือนละ พันกว่าบาท ก็โอเคนะ ช่วยเหลือเงินที่บ้านได้บ้าง เก็บเงินจนซื้อเครื่องคอมได้เครื่องนึง สองหมื่นกว่าบาท นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมของคณะ "งานบนเส้นทางวิศวกรรม" จัด 2ปี 1 ครั้ง เรียน 4 ปี ได้ทำงานนี้ 2 ครั้ง (ปี1 กับ ปี3) แล้วก็ยังมีงานอื่น ๆ อีกมากเลยให้ทำ
ที่คณะวิศวะ มีกิจกรรมรับน้องที่ประทับใจมาก คือ การวิ่งประเพณี คือการวิ่งให้ครบรอบ(เท่ารุ่น) + อีก 1 รอบให้รุ่นน้อง คือผมรุ่น 49 ก็ต้องวิ่งทั้งหมด 50 รอบ โดยมีตัวแทนรุ่นพี่แต่ละรุ่นมาวิ่งนำ มันเป็นการแสดงความเป็นหนึ่งเดียวกัน การช่วยเหลือกัน คือระหว่างการวิ่งจะมีคนเป็นลม ตะคริว ก็จะมีคนช่วยกัน รักกัน เห็นใจกันก็ช่วงนี้แหละ บางคนได้เพื่อนแท้ไปเลย
พักไว้ก่อนนะครับ... ว่าง ๆ จะมีเขียนต่อ